แชร์

ดูหมาใต้ถุนศาลา

อัพเดทล่าสุด: 6 มี.ค. 2025
35 ผู้เข้าชม

                มีเรื่องเล่าคลาสสิคอยู่เรื่องหนึ่งเมื่อหลายสิบปี  ผู้บริหารส่วนใหญ่จะเล่าให้ลูกน้องฟังเรื่องเกี่ยวกับหลวงพ่อให้สามเณรลงไปดูหมาใต้ศาลาวัด   เพื่อสอนให้รู้เรื่องความแตกต่างของคน  โดยแปลงมาจากเค้าโครงเรื่องเดิม ดังนี้ 

                ยุคสมัยหนึ่ง พระราชาผู้ปกครองแว่นแคว้นอันยิ่งใหญ่ เสด็จออกนอกพระราชฐานเพื่อเยี่ยมเยียนประชาชน โดยเสด็จทางเรือ เรือขบวนเสด็จมาถึงท่าน้ำแห่งหนึ่ง ก็ให้เทียบท่าและเสด็จขึ้นประทับพักพลฝีพาย ขณะเสด็จขึ้นจากเรือเพื่อประทับศาลาท่าน้ำ   ก็ได้ยินทหารฝีพายนายหนึ่งพูดว่า "พายเรือมาตลอดทางก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว เวลาหยุดพักก็ใช่ว่าจะได้พัก ยังต้องมาตรวจตราที่ประทับเสียอีก  ดูสิมหาดเล็กอยู่บนเรือ ก็ได้แต่โบกไม้ โบกมือ โบกธง ไม่เห็นต้องทำอะไรให้เหนื่อยเลย พอพักก็เดินสบายๆ ไม่ต้องทำอะไรอีก เราสิที่ต้องเหนื่อย...."      พระราชาได้ยิน เมื่อขึ้นประทับบนศาลาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ตรัสหาทหารฝีพายนายนั้น   ด้านทหารฝีพายเมื่อได้ทราบว่าพระราชาเรียกหาตน ก็ดีใจใหญ่ คิดในใจเอาว่าเป็นโอกาสได้รับใช้ใกล้ชิด จะเป็นโอกาสในการเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ รีบวิ่งไปเข้าเฝ้าหน้าที่ประทับ ถวายงานกับพระราชา

พระราชา :      "ท่านทหารฝีพาย เราขึ้นมานั่งบนศาลา ได้ยินแว่วเสียงยังกะว่า มีตัวอะไรอยู่ใต้ศาลาแห่งนี้"
ทหารฝีพาย :  "ข้าพระพุทธเจ้าจะอาสาไปสำรวจ และจะมารายงานพระองค์ พระเจ้าข้า" รับคำแล้วก็รีบลงไปดู แล้วขึ้นมารายงาน
ทหารฝีพาย :  "ใต้ถุนศาลามีหมาอยู่ครอกหนึ่ง พระเจ้าข้า"
พระราชา :      "แล้วมีหมาทั้งหมดกี่ตัวละท่าน" ทหารฝีพายก็รีบลงไปดู
ทหารฝีพาย :  "มีหมาทั้งหมด 5 ตัว พระเจ้าข้า"
พระราชา :      "มันเป็นตัวผู้กี่ตัว ตัวเมียกี่ตัวกันนะ" ทหารฝีพายก็รีบลงไปดูอีก
ทหารฝีพาย :  "หมาตัวผู้ 2 ตัว ตัวเมีย 3 ตัว พระเจ้าข้า"
พระราชา :      "เอ..แล้วมันมีสีอะไรบ้าง" ทหารฝีพายก็รีบลงไปดูอีก
ทหารฝีพาย :  "สีขาว 2 ตัว ขาว-ดำ 2 ตัว และสีดำอีก 1 ตัว พระเจ้าข้า"

                พระราชาได้ฟังดังนั้น ยังไม่ทันได้ตรัสอะไรเพิ่ม ทหารมหาดเล็กก็กลับมาจากที่ไปติดต่อนายบ้านพอดี    พระราชาจึงตรัสกับทหารมหาดเล็กว่า "ท่านมหาดเล็ก เราได้ยินเสียงตัวอะไรอยู่ใต้ถุนศาลา ใคร่จะรู้ว่ามันเป็นเสียงอะไรกัน"   ทหารมหาดเล็กชี้ให้นายบ้านนั่งเพื่อเฝ้ารับเสด็จ แล้วตอบกลับข้อสงสัยของพระราชาว่า "ใต้ถุนศาลา มีหมาลูกอ่อนอยู่ครอกหนึ่ง แม่หมามีลูก 4 ตัวเป็นสีขาว-ดำ 2 ตัว สีขาว 2 ตัว ส่วนตัวแม่หมานั้นสีดำ ลูกหมาเป็นตัวผู้ 2 ตัว ตัวเมีย 2 ตัว ลูกหมามันแย่งกันดูดนมแม่ จึงมีเสียงดังหงิงๆ แว่วดังมา ดูแล้วรอบๆ ไม่พบว่าจะมีพ่อหมาอยู่แถวนี้ พระเจ้าข้า"

                เรื่องเล่านี้ สอนให้เราเห็นข้อแตกต่างของคนสองคน คนหนึ่งทำตามสั่งอย่างเดียว ไม่ยอมทำอะไรมากเกินคำสั่ง คิดเผื่อไม่เป็น ออกแรงทำงานอย่างเดียว ส่วนอีกคนมองภาพรวม  เอาใจใส่ในรายละเอียดครอบคลุมในสิ่งที่สำคัญ   นั่นคือสิ่งที่แยกระหว่าง การเป็นผู้นำ กับผู้ตาม   ในชีวิตจริงเราอาจจะเจอคนที่ทำตามสั่งอย่างเดียว ใครมีลูกน้องแบบนี้  ก็เหนื่อยและปวดหัวถ้าให้ไปทำงานที่ต้องใช้ความคิด การแก้ปัญหา  ต้องควบคุมตลอดการทำงาน  ปล่อยให้ทำเองไม่ได้   นานมาแล้วเคยมีเรื่องตลกร้ายเรื่องหนึ่ง ที่จ้างลูกจ้างมาดูแลเด็กชื่อแอปเปิ้ล   ในช่วงที่แม่ออกไปทำงานนอกบ้าน บังเอิญวันนั้นคุณแม่ซื้อแอปเปิ้ลมาจากตลาดวางไว้โต๊ะในครัว  จึงโทรบอกลูกจ้างว่า ให้เอาแอปเปิ้ลเข้าตู้เย็น  คุณแม่กลับบ้านมาไม่เจอลูก จึงถามลูกจ้าง ลูกจ้างตอบว่า อยู่ในตู้เย็น ........

                ในสมัยสามก๊ก หรือฮิตเลอร์แห่งเยอรมัน (ไม่รู้ว่าใครก่อนหลัง) แยกคนออกเป็น 4 กลุ่ม คือ

  กลุ่มที่ 1   คนฉลาด และขยัน  -  คนกลุ่มนี้เลี้ยงไว้ใช้งาน สนับสนุนให้เจริญก้าวหน้าเพื่อเป็นกำลัง ถ้าเป็นระบบทหารก็ให้เป็นแม่ทัพ เพราะจะมีความรับผิดชอบสูง แต่ไว้ใจไม่ได้ ชอบมักใหญ่ใฝ่สูง  ฮิตเล่อร์ใช้งานเสร็จจะฆ่าทิ้ง(เสร็จศึกฆ่าขุนพล) 

  กลุ่มที่ 2   คนฉลาด แต่ขี้เกียจ - คนกลุ่มนี้จะเอาไว้ใช้งานเรื่องการใช้ความคิด วางแผน  ทางการทหารจะใช้เป็นพวกเสนาธิการ ชอบทำอะไรเอง ไม่ไว้ใจผู้อื่น  ซื่อสัตย์ไม่มักใหญ่ใฝ่สูง

  กลุ่มที่ 3  คนโง่ แต่ขี้เกียจ  - คนกลุ่มนี้ ต้องคอยให้คำแนะนำ มีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งเท่านั้น ถนัดใช้แรงงานอยู่ไปวันๆ ในทางการทหารจะเป็นพวกพลทหาร ไม่มีพิษมีภัย สั่งทำอะไร ก็ทำ ไม่สั่งก็ไม่ทำ  ชอบรับใช้ ต้องควบคุมสั่งการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด  ถวายชีวิตให้ได้ถ้าถูกใจ  ฮิตเล่อร์จะเลี้ยงไว้ไม่ทรยศต่อนาย 

  กลุ่มที่ 4  คนโง่ และขยัน - คนกลุ่มนี้ เป็นอันตราย ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ใด ก็ก่อเรื่องวุ่นวาย ทำเรื่องเดือดร้อน เลี้ยงไว้ไม่เป็นประโยชน์ต่อองค์กร  ทางการทหารควรกำจัดทิ้งสถานเดียว เพราะ มักทำแต่เรื่องโง่ๆ  ขยันทำแต่เรื่องวุ่นวานให้หน่วยงานเดือดร้อน ต้องตามแก้ปัญหา เพราะความอวดเก่งทำอะไรแบบโง่ๆ  พวกนี้ฮิตเลอร์สั่งฆ่าทิ้งหมด 

               ในชีวิตจริง เราอาจเจอคน 4 กลุ่มนี้  อยู่ที่เรามองเห็น และยอมรับว่า จะอยู่ร่วมกับพวกเขายังไง  คนไหนที่เอาไว้ใช้งาน คนไหนเอาไว้ปรึกษา คนไหนควรหลีกเลี่ยง 

               ความสมบูรณ์แบบของชีวิตคือ การยอมรับและเข้าใจในสิ่งที่ไม่สมบูรณ์แบบ  

  พ่อหมูตู้


บทความที่เกี่ยวข้อง
มุมเดียวกัน แต่เห็นต่างกัน
เล่าเรื่องการทำงานของสมอง กับการตีความของมนุษย์
12 มี.ค. 2025
social norms
พฤติกรรมของคนเห็นแก่ตัว กับบรรทัดฐานทางสังคม
10 มี.ค. 2025
เรื่องเล่าหลอนๆตอนทำงาน #4   ที่น่าเจอกลับไม่เจอ
เรื่องเล่าจากประสบการณ์ตัวเอง สมัยไปทำงานที่ต่างจังหวัด
6 มี.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy