คลื่นรบกวน ......
สิ่งที่แยกมนุษย์ออกจากสิ่งมีชีวิตอื่น คือ มนุษย์มีเซลล์ประสาทในสมองของคนเรามีอยู่ราว 1 แสนล้านเซลล์ โดยแต่ละเซลล์มีใยประสาทส่วนเดนไดรต์ (Dendrite) ราว 50 แขนง และในแต่ละแขนงมีไซแนปส์ (Synapses) หรือจุดประสานประสาท ซึ่งเชื่อมต่อรับสัญญาณไฟฟ้าจากเซลล์ประสาทอื่น ๆ อยู่เป็นจำนวนหลายร้อย ลักษณะพิเศษของใยประสาทส่วนเดนไดรต์ ทำให้สมองมนุษย์มีพลังในการคิดวิเคราะห์เหนือกว่าสัตว์ชนิดอื่นหลายเท่าตัว คล้ายกับมีคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วทำงานร่วมกันโดยเชื่อมต่อกันกว่า 1 แสนล้านเครื่อง จึงทำให้มนุษย์มีความแตกต่าง วันนี้จะมาพูดถึงคลื่นสมอง(Brain wave) หรือที่เรียกว่าเป็นจังหวะจากการสื่อสารของเซลล์ประสาทที่เรียกว่าการสั่นของระบบประสาทหรือคลื่นสมอง เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งได้มาจากการส่งสัญญาณเคมีทางชีวภาพในร่างกายมนุษย์ บริเวณต่างๆ ของสมองไม่ได้ปล่อยความถี่คลื่นสมองแบบเดียวและพร้อมกัน มีลักษณะเคลื่อนไหวขึ้นลง 〰 จึงมีความถี่แตกต่างกัน โดยใช้หน่วยการวัดเป็นรอบต่อวินาที (Hertz : Hz) สามารถวัดได้โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Electroencephalography (EEG) แยกคลื่นสมองของมนุษย์ได้ดังนี้
- คลื่นเดลต้า(Delta Waves) มีความถี่ระหว่าง 0.5-4 Hz เกี่ยวข้องกับการผ่อนคลาย พักผ่อน นอนหลับลึก หลับสนิทโดยไม่มีการฝัน มีความสำคัญต่อการฟื้นฟูร่างกาย
- คลื่นธีต้า (Theta Waves) มีความถี่ระหว่าง 4-8 Hz เกิดขึ้นตอนผ่อนคลาย ในช่วงกึ่งหลับกึ่งตื่น การนอนหลับระยะแรกๆ เชื่อมโยงกับการฝัน ความคิดสร้างสรรค์ สัญชาติญาณ
- คลื่นอัลฟ่า(Alpha Waves) มีความถี่ระหว่าง 8-13 Hz เกิดขึ้นในขณะที่ตื่นตัว แต่ผ่อนคลาย เชื่องโยงกับความสบายใจ สภาพจิตในที่สงบนิ่ง
- คลื่นเบต้า (Beta Waves) มีความถี่ระหว่าง 13-30 Hz เกี่ยวข้องกับการคิดวิเคราะห์ เกิดขึ้นขณะที่เราตื่น รู้สึกตัว เชื่อมโยงกับการสนทนาและการตัดสินใจ พบในสมองของคนที่ตื่น ทำงานอยู่ เป็นสัญญาณของสมองที่ตื่นตัว
- คลื่นแกมมา(Gamma Waves)มีความถี่ระหว่าง 30-100 Hz เป็นคลื่นสมองที่เร็วที่สุด จะเกิดตอนสมองตื่นตัว ที่เกี่ยวกับการทำงาน การแก้ปัญหา จดจ่อ การรับรู้ เรียนรู้เรื่องต่างๆ ช่วยเชื่อมต่อและประมวลผลข้อมูลทั่วทั้งสมอง
คลื่นสมองทั้งห้าที่กล่าวมา วิ่งไปวิ่งมาอยู่ในสมองของเราตลอดเวลา ความถี่สูงต่ำอยู่ที่เราเป็น เราคิด การจัดการความคิด การควบคุมความถี่ของคลื่นในสมองขึ้นอยู่กับการจัดการของแต่ละคน เช่น เอาแต่เรื่องไม่ดีของคนอื่น หรือของตัวเอง มาคิดวนเวียนในสมองอยู่ตลอดเวลา สมองก็จะตื่นตัวสร้างคลื่นความถี่สูงอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายโดยรวม หลับไม่ค่อยหลับ อ่อนเพลีย คิดไม่ออก ผลเสียทั้งนั้น ทำซ้ำๆ ทำบ่อยๆ โรคภัยก็ตามมา แล้วก็มานอนบนเตียง ให้หมอรักษา ปรับคลื่นในลดลง บางคนเป็นโรคร้าย ต้องการฟื้นฟูร่างกายให้หาย ต้องการให้สมองอยู่ในช่วงของคลื่นเดลต้า อาจมีตัวช่วยเป็นสารจากพืช(กัญชา) ช่วยให้นอนหลับลึก เพื่อต้องการฟื้นฟูร่างกายให้ดีขึ้น ซึ่งก็มีหลายคนก็ใช้วิธีนี้รักษา บางคนอยากอยู่อย่างสงบ หนีพ้นจากโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ก็ปรับคลื่นเป็นอัลฟ่า โดยการฝึกจิต นั่งสมาธิ ลดความคิดที่ฟุ่งซ่าน อยู่กับตัวเอง เห็นจิตของตัวเอง จนเดี๋ยวนี้เราสามารถฟังคลิปเสียงผ่อนคลาย ให้นอนหลับลึก ใน Youtube นอนปรับคลื่นสมองทั้งคืนได้แล้ว คลื่นสมองจะขี้นลงมากน้อยอยู่ที่การจัดการจิตของแต่ละคน หากเราไม่รับรู้เรื่องนี้ ยังปล่อยให้สมองของตัวเอง สร้างคลื่นความถี่สูงตลอดเวลา โดยไม่รู้ตัว ผลลัพธ์ก็เกิดกับตัวเราเอง สุขภาพของเรา ไม่มีใครมารับแทนได้ มันเป็นเรื่องพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์
ส่วนตัวผมคิดว่า ยังมีอีกคลื่นชนิดหนึ่งที่สำคัญ เป็นคลื่นที่อยู่ภายนอกตัวเรา และเป็นตัวการที่ส่งผลกระทบต่อคลื่นที่อยู่ภายในตัวเราให้เกิดการแปรปรวน ผมเรียกมันว่า "คลื่นรบกวน" ผมหมายถึงความรู้สึกด้านลบที่อยู่ภายนอกตัวเรา เข้ามารบกวนความถี่ของคลื่นสมองมนุษย์ ผ่านการรับรู้จากผัสสะทั้งห้า (การมองเห็น การได้ยิน กลิ่น การสัมผัส และการลิ้มรส) เช่น บางคำที่พูด ได้เห็นการกระทำบางอย่างของคนที่มีนิสัยเป็นพิษ(Toxic Poeple) หรือคนไม่ดี อาจทำร้ายใครหลายคนที่เป็นผู้ฟัง หรือได้เห็น สิ่งแย่ๆจะถูกส่งมาหาเราในรูปแบบของคลื่นมารบกวนคลื่นสมองในตัวเราให้แปรปรวน ยิ่งคนที่ไม่รู้จักวิธีจัดการกับคลื่นรบกวนเหล่านี้ ไปรับคลื่นรบกวนเข้ามาก่อกวนในสมอง ให้คิดวกวน ทำให้คลื่นสมองทำงานแปรปรวน ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยสงบนิ่ง ไม่ได้ผ่อนคลาย แม้ตอนหลับ ก็ยังฝันร้าย เป็นทุกข์ที่ถูกนำเข้าสู่สมองจากตัวเราเอง เพราะความไม่รู้ว่ามันคือคลื่นรบกวน มันเป็นพิษต่อตัวเรา บางคนปล่อยคลื่นรบกวนนี้ตลอดเวลา บางคนปล่อยคลื่นรบกวนเพราะความอ่อนแอของจิตใจ บางคนปล่อยคลื่นรบกวนมาตั้งแต่เกิด ยากจะแก้ไขปรับปรุง...... วิธี save ตัวเราเบื้องต้นคือ อยู่ให้ห่างจากคลื่นรบกวนให้มากที่สุด โดยเราต้องรู้แหล่งที่มาของคลื่นรบกวนก่อน เพื่อจะได้รู้ว่าต้องห่างจากใคร หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ให้เผชิญกับคลื่นรบกวนอย่างมีสติ ทำใจปล่อยวาง ทำตาข่ายความคิดให้มีช่องถี่ๆ ให้มีรูเล็กๆเพื่อกรองเอาความคิดที่ไม่ดีออกไป ไม่นำขยะความคิดของคนอื่นเข้ามาทิ้งในสมองของเรา นำเข้าแต่เรื่องราวดีๆ เอาตัวไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ส่งแต่คลื่นความดีออกไปเรียกสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต ฝึกควบคุมคลื่นความถี่ในสมองให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเรา ....... ในโลกนี้ไม่มีใครสามารถทำแทนเราได้ อยากได้ต้องทำเอง
พ่อหมูตู้