กินแบบไหน ก็เป็นอย่างนั้น
การกินเป็นปัจจัยสี่ของมนุษย์ทุกคน มนุษย์ต้องกินทุกวัน กินได้ตลอดทั้งวัน เกิดมาเพื่อกิน สิ่งที่มนุษย์กิน จะส่งผลต่อสุขภาพของแต่ละคน ตามที่มีคำพูดว่า "you are what you eat" กินอะไรก็เป็นอย่างนั้น การกินเป็นระบบของร่างกายที่ตอบสนองตามธรรมชาติ เราต้องกินอย่างถูกต้อง เราต้องเข้าใจพื้นฐานของระบบการทำงานในร่างกายมนุษย์ก่อน ผมว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่เข้าใจการกิน เพราะผมสังเกตุจากรูปร่าง ก็รู้ว่าพวกเขามีการกินแบบใด มันทายกันได้เชื่อไหม๊ ผมสมมุติว่า ท้อง(กระเพาะ) ของเรา เป็นถังใบหนึ่ง ทุกวันจะมีเติมอาหารลงมา 3 ครั้ง ได้แก่มื้อเช้า มื้อเที่ยง และมื้อเย็น รวมทั้งระหว่างวัน ก็มีการเติมพวกของกินเล่น เครื่องดื่ม กาแฟ ........ ลงมาอีกตลอดทั้งวัน ปกติถังใบนี้ เมื่ออาหารลงมา ระบบร่างกายจะหลั่งน้ำย่อยออกมาจัดการ เพื่อดูดซึมสารอาหารส่งต่อไประบบอื่นๆ และระบายของเสียออกจากร่างกาย หากมื้อนั้นมีการดื่มน้ำ กินน้ำเย็นในปริมาณมาก ร่วมกับอาหารด้วย จะทำให้น้ำย่อยทำงานไม่เต็มที่ เหมือนไปเจือจางกรดน้ำย่อย ให้มีประสิทธิภาพต่ำลง ทำให้กำจัดอาหารในถังไม่หมดในมื้อนั้น ลองคิดดู จากของตกค้างในถังเมื่อวานยังย่อยไม่หมด มื้อเช้านี้เราพึ่งกินเข้าไป ทั้งอาหาร กาแฟเย็น น้ำอัดลม น้ำเย็น เต็มถัง (อิ่มแปล้) ร่างกายยังย่อยไม่ทันหมด ผ่านไปอีกสาม-สี่ชั่วโมง มื้อเที่ยงก็มา กินเข้าไปอีก มื้อเช้ายังมีค้างในถัง มื้อเที่ยงก็มาเติมอีก ระบบย่อยของร่างกายทำงานไม่ทัน ไม่นับรวมของกินเล่นตอนบ่าย ปลาหมึกปิ้ง ลูกชิ้นปิ้ง พิซซ่า ไก่ทอด....... ถูกเติมตามปาก เข้าไปเพิ่มในถัง ระบบการย่อยคงแปรปรวน งง กับมนุษย์ที่กินได้ตลอดเวลา ย่อยยังไงก็ไม่หมด เต็มถังแล้ว โดยปกติระบบการย่อยของมนุษย์จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ระบบหลักๆได้แก่ ต่อมน้ำลาย กระเพาะอาหาร ลำไส้ ตับ.... และระบบสำคัญคือตับ การทำงานของตับ เมื่อเจอน้ำเย็น (ตามศาตร์ของจีน) จะทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ คนที่ชอบกินอาหารพร้อมน้ำเย็น กินข้าวคำ น้ำคำ มักจะมีปัญหาการย่อยไม่สมบูรณ์ มีโอกาสอาหารติดค้างในกระเพาะมากกว่าปกติ กลับมาที่ถังของเรา วันนี้แค่ผ่านมื้อเช้า กับมื้อเที่ยงมา ระบบการย่อยรับศึกหนัก ยังกำจัดไม่หมด มื้อเย็นก็มาเติมลงในถังอีก ถังตอนนี้มีแต่อาหารที่กินเข้าไปรวมกัน ท่านเคยเห็นเวลาร้านอาหารเขาเทของที่เหลือ พวกเศษอาหารลงถังหลังครัวไหม๊ ถังของเราก็เป็นยังงั้น ทั้งกลิ่น ทั้งแก็ส ปะปนกัน mix รวมกัน ช่างสกปรกแท้มนุษย์เนี้ย เป็นภาพไม่น่าดูเลย แต่เราไม่เห็นถังของเรา และเราก็หิ้วถังของเราไปกับเราทุกที่ ไปเที่ยว ไปเดินห้าง ขึ้นรถไฟฟ้า เดินทางกลับบ้าน ... ผมเรียกถังตอนนี้ว่า "ถังขี้" เราก็นอนกอดถังของเราจนสว่าง และที่แปลกของมนุษย์คือ ตอนหิ้วถังขี้ไปกับตัวเอง ไม่เคยรังเกียจ แต่เวลาขับถ่ายของเสียออกจากตูดแค่ไม่กี่มิล กลับรู้สึกรังเกียจ ขยะแขยงไม่อยากสัมผัส ราวกับว่าไม่เคยอยู่ด้วยกันมา ทั้งๆที่อยู่ในท้องของเราเองมาทั้งวัน ทั้งคืน และที่ออกมาคือสิ่งที่ตัวเองกินเข้าไป
ส่วนคนที่ชอบกินน้ำเย็น น้ำอัดลม น้ำที่ใส่น้ำแข็ง ในปริมาณมากต่อวัน สังเกตุทรงได้ง่าย ท้องป่องทุกคน เพราะลมในท้องเยอะ แก็สเยอะ วันๆเอาแต่กินแบบตามใจปากโดยไม่เข้าใจ วันนี้ถังขี้ยังระบายออกไม่หมด พรุ่งนี้ก็กินเข้าไปเติมใหม่อีก ถ้าระบบการย่อยไม่มีประสิทธิภาพ และระบบกำจัดของเสียของร่างกาย ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ มีแต่การกินเติมใหม่เข้าไปเรื่อยๆ ยิ่งพวกคนท้องผูกจะแย่ไปใหญ่ ลองสังเกตุตัวเองได้ง่ายๆว่า ร่างกายของเรามีระบบทำงานที่ปกติไหม๊ เรายังมีสุขภาพที่ดีไหม๊ ดูที่เวลาอึออกตอนเช้า ให้ดูรูปทรงของอึ ว่าเป็นลำสวย มีสีเหลืองสวยไหม๊ หากยังมีการขับถ่ายอึ มีสภาพเหลว ไม่เป็นก้อน นั่นคือสัญญาณว่า เรากินไม่เป็น ระบบในร่างกายเริ่มทำงานผิดปกติ
อยากให้ร่างกายมีระบบย่อยอาหารที่เป็นปกติ ท้องไม่ป่อง พุงยุบ ในเบื้องต้น ลองงดกินน้ำพร้อมอาหาร แค่ซดน้ำซุปก็พอ งดกินน้ำเย็นตลอดเวลา เมื่อกินอาหารเข้าไปแล้ว ต้องทิ้งเวลาให้ระบบร่างกายมีเวลาย่อยก่อน ค่อยกินน้ำ ทำให้ได้แค่นี้ก่อน ที่สำคัญคือ ควรเลือกกินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ต้องรู้ว่ากินอะไรเข้าไป มีประโยชน์อย่างไร มีโทษอย่างไร กินแต่พอดี ไม่มากไป ไม่น้อยไป อย่ากินตามปากที่อยากกิน
พ่อหมูตู้